ปัญหา'คุณแม่วัยทีน' ในวัยรุ่นไทย

ปัญหาที่สืบค้น เรื่อง

ปัญหา 'คุณแม่วัยทีน'

ในประเทศไทย

ปัญหา 'คุณแม่วัยทีน' ยังคงเป็นปัญหาที่ยังเกิดขึ้นอยู่กับวันรุ่นไทยจนถึงทุกวันนี้ จนเริ่มไต่อันดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นประเทศไทยกลายเป็นอันดับต้นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้ว

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนของ www. kapook.com

จากสถิติ พบว่า เด็กวัยรุ่นไทยมีการคลอดลูกเฉลี่ยวันละ 370 คน!! 70% ใช้บ้านตัวเองในการมีเพศสัมพันธ์ และที่สำคัญ วัยรุ่นที่มีปัญหาเรืองการมีเพศสัมพันธ์  และติดโรคจากการการมีเพสสัมพันธ์จะเป็น เด็กเรียนเก่ง มากกว่าเด็ก เกเร! 

มันเป็นเรืองแปลกที่เด็กเก่งจะมีปัญหานี้ แล้วผลกระทบที่ตามมาของปัญหานี้แน่นอน

รูปจาก http://www.sby.ac.th/krumukda

ผลจากปัญหา 'คุณแม่วัยทีน' 

- ปัญหาต่อสุขภาพของแม่และเด็กที่เกิดมา

เนื่องจากการตั้งครรภ์ของแม่วัยรุ่นส่วน

ใหญ่มีสภาพร่างกายยังไม่พร้อมเต็มที่ ทั้งการเจริญเติบโตของแม่ที่ยังมีการเจริญเติบโตไม่เต็มที่ 

จึงส่งผลต่อการเจริญเติบโตของบุตรและการเติบโตของมารดาเอง ภาวะความไม่สมบูรณ์พร้อม

ทางร่างกายจึงส่งผลเสียต่อการดูแลของรัฐในระยะยาว 

 - ปัญหาทางสาธารณสุข 

จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขยังพบว่า แม่วัยรุ่นยัง

ขาดวุฒิภาวะในการดูแลตนเองระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้เกิดปัญหาต่อการตั้งครรภ์และการคลอด

ที่ชัดเจน ทั้งการฝากครรภ์ช้าและไม่ครบตามเกณฑ์ ภาวะโลหิตจาง การคลอดก่อนก าหนด การ

คลอดทารกน้ าหนักตัวน้อยและการตายคลอด 

 - ปัญหาต่อสังคม 

ซึ่งถือเป็นปัญหาลูกโซ่ใหญ่ทางสังคม ทั้งปัญหาการทำแท้งไม่

ปลอดภัย การทอดทิ้งและท าร้ายเด็ก รวมถึงปัญหาการขาดวุฒิภาวะและความพร้อมที่จะเลี้ยงเด็ก 

น าไปสู่ความรุนแรงในครอบครัว และที่ส าคัญเด็กผู้หญิงจะไร้อนาคตไม่สามารถเรียนต่อได้ 

กลายเป็นแรงงานราคาถูก หรือไร้อาชีพในที่สุด 

 - ปัญหาต่อภาครัฐ

การดูแลแม่วัยรุ่น มีค่าใช้จ่ายประมาณรายละ 1.75 แสนบาท ในแต่

ละปี นอกจากนี้จากปัญหาการทอดทิ้งเด็ก ปัญหาทางสุขภาวะเด็กและปัญหาทางสังคม ยังส่งผล

ให้รัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3-4 ปี หรือยาวนานกว่า ซึ่งหากรัฐบาลมี

การแก้ปัญหานี้ส าเร็จ จะประหยัดงบประมาณรัฐ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสังคม

อ้างอิงจากเว็บ http://choicesforum.files.wordpress.com/ โดยพิมพิดา โยธาสมุทร

นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีกอย่างในการมีเพศสัมพันธ์
อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเอดส์หรือติดเชื้อ HIV และโรคอื่นๆ ที่ตามมา บางโรครักษายาก บางโรครักษาไม่ได้เลย จนกลายเป็นสิ่งที่ตัดโอกาสต่างๆในอนาคตเด็กได้ !!

 

สำหรับนักเรียน/วัยรุ่น
การหลีกเลี่ยงและป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน 
ควรปฎิบัติดังนี้

• หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงทางเพศ เช่น

 - ไม่อยู่ในที่ลับตากับเพศตรงข้ามสองต่อสอง

                - ไม่เสพสุราหรือของมึนเมา

                - ไม่ไปเที่ยวค้างคืนกับเพศตรงข้าม

                - ไม่ไปเที่ยวค้างคืนกับเพศตรงข้าม

                - ไม่ดูสื่อที่ยั่วยุอารมณ์ทางเพศ

\

• ไม่ยินยอมให้ถูกเนื้อต้องตัวได้โดยง่าย เช่น การจับมือ การกอด จูบ เป็นต้น 

        โดยอีกฝ่ายต้องแสดงอาการหวงตัวเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าไม่ควรเช่นนี้อีก

• ไม่ยินยอมให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยอาจใช้วิธีดังต่อไปนี้

                - พูดกันแบบตรงไปตรงมาว่ายังไม่พร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย

                - พูดปฎิเสธอย่างหนักแน่นถ้าอีกฝ่ายขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย

•  ต้องเลิกคบกับผู้ที่ชอบล่วงเกิน เพราะแสดงว่าคนผู้นั้นไม่มีความจริงใจต่อกัน

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก บริษัทอักษรเจริญทัศน์
จากหนังสือ แม่บทมาตรฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๖ พิมพ์ครั้งที่ ๒ 

Via: www.trueplookpanya.com
stopteenmom.com