เมื่อเราเกิดมาบนแผ่นดินไทย เท่ากับเราเป็นหนี้บุญคุณของประเทศไทย เราจึงต้องทดแทนพระคุณชาติโดยการส่งเสริมและร่วมกันพัฒนาชาติให้ดีขึ้น รวมไปถึงควรภูมิใจในชาติไทยของเราเอง ประเทศไทยของเรานั้นเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ในด้านทรัพยากร สิ่งแวดล้อมธรรมชาติต่างๆ ทำให้เราเกิดมาและอาศัยอยู่อยางสบายและไม่ลำบาก รวมทั้งสมัยก่อนประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร บรรพบุรุษของไทยที่พยายามปกป้องบ้านเมืองของเรา ไม่ให้ถูกเอาเปรียบมาจนถึงทุกวันนี้
การปฎิบัติที่แสดงถึงความรักชาติ
- การร้องเพลงชาติด้วยความภาคภูมิใจ
หลายคนมองว่านี่เป็นสิ่งที่ง่ายๆ
เพราะร้องเป็นมาตั้งแต่เด็ก
แต่ในชีวิตประจำวันจริงๆ
ใครร้องเพลงชาติด้วยความสำนึกรัก
หรือสำนึกถึงบุญคุญของชาติอย่างแท้จริง
ศาสนา
ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
จริงๆแล้วประเทศไทยนั้นไม่ได้ปิดหั้นหรือบังคับให้นับถือศาสนาเดียวในประเทศ ดังนั้น ประเทศไทย จึง มีประชาชนที่นับถือศาสนาอื่นด้วย แต่ได้ตั้งศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
คำสอนหลักๆในศาสนาพุทธรวมถึงข้อปฎิบัติสำหรับประชาชนทั่วไป ก็คือการนับถือและปฎิบัติตามศีล5
การปฎิบัติตนแสดงถึงความรักศาสนา
-การปฎิบัติตามคำสอนอย่างแท้จริง
ไม่ใช่แค่การไปทำบุญหรือการเข้าวัดเท่านั้นที่แสดงถึงความรักและนับถือในศาสนา แต่การนำความรู้ คำสอนต่างๆไปปฎิบัติเป็นกิจวัตรต่างหากจึงจะเป็นการรักศาสนา แสดงว่าเราได้พร้อมยอมรับในการเป็นสาวกในศาสนานั้นๆ
-นอกจากนี้ การช่วยทำนุบำรุงศาสนา ไม่ว่าช่วยดูแลวัดดูแลสมบัติของศาสนา เช่น พระพุทธรูป ศาสนสถาน ศาสนวัตถุต่างๆ
พระมหากษัตริย์
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 1 ก็คงไม่มีประเทศไทยให้เราได้อยู่อย่างสุขสบาย
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 2 เราก็คงไม่มีหนังสือเรียนภาษาไทย
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 3 สุขภาพของคนไทย รวมไปถึงมีสังคมที่ย่ำแย่จากการเสพฝิ่น
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 4 ประเทศไทยก็คงไม่มีความก้าวหน้าทันสมัย รวมถึงการศึกษาด้วย
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 5 เราก็คงไม่มี รถไฟ สาธารนูปโภคต่างๆรวมถึงการศึกษา การมีอิสระทางสังคม และ
เราก็ไม่ต้องตกเป็นทาสใคร
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 6 เราก็คงไม่มีลูกเสือ และการฝึกความเป็นระเบียบวินัย การช่วยเหลือกัน
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 7 ประชาชนก็ไม่มีสิทธิเสียงในการเลือกผู้นำประเทศ
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 8 การแพทย์ของไทยก็คงไม่ก้าวหน้า
ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 9 เราก็จัดการเรื่องน้ำท่วม ภัยธรรมชาติต่างๆ
ดังนั้น ถ้าไม่มีกษัตริย์ไทยเหล่านี้ ประเทศเราก็คง
ไม่ก้าวหน้า คนไทยเราก็ไม่อยู่อย่างสบายจนทุกวันนี้
ขอบคุณรูปภาพจาก
www.taamkru.com
*บทความนี้เขียนที่ www.bailerman.blogspot.com เป็นที่แรก*
ขอบคุณรูปภาพจาก
www.taamkru.com
*บทความนี้เขียนที่ www.bailerman.blogspot.com เป็นที่แรก*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น